รีวิว โก๋ เมืองกาญจน์ พาราไดซ์ วิว รีสอร์ท กับแพริมแม่น้ำแควน้อย พักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ และสนุกกับกิจกรรมทางน้ำ
Review Koh mueangkarn resort - With raft on the Kwai Noi river. Relax close to nature. And enjoy water activities
หนีกรุง..ไปเที่ยวกาญจน์เถอะ
จังหวัดกาญจนบุรีหน้าฝนก็เป็นอีกหนึ่งฤดูน่าท่องเที่ยวเพราะความชุ่มชื้น
ความเขียวขจีของต้นไม้เห็นแล้วสดชื่นไปหมด ว่าแล้วก็ลองหาข้อมูลที่พักแนวธรรมชาติรับโอโซน
ริมน้ำ บรรยากาศสดชื่นๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี
และก็ได้ที่พักชื่อ โก๋ เมืองกาญจน์ พาราไดซ์ วิว รีสอร์ท จะเป็นยังไงตามไปดูกัน
เริ่มออกเดินทางแต่เช้าจุดมุ่งหมายแรกของเราวันนี้แวะไหว้พระกันก่อนที่
วัดถ้ำเสือ วัดถ้ำเสือจะตั้งอยู่บนเนินเขา ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง
ขึ้นไปบนเขาจะเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อชินประทานพร และพระเจดีย์
การขึ้นไปเยี่ยมชมวัดถ้ำเสือ สามารถขึ้นไปได้ 2 แบบ คือ
เดินขึ้นบันไดนาคอยู่บริเวณด้านหน้าทางขึ้นเขา
จำนวนขั้น 157 ขั้น หรือถ้าใครเดินขึ้นไม่ไหวก็สามารถซื้อตั๋วรถรางไฟฟ้าได้ นั่งไป-กลับ 10 บาท
ส่วนตัวเราเลือกนั่งรถรางไฟฟ้า555 ทุ่นแรงไปได้เยอะ
** สำหรับสาวๆที่ใส่กางเกง-กระโปรงสั้นไป จะต้องเช่าผ้าถุงก่อนขึ้นไปนะ **
วันที่ไปอากาศค่อนข้างดี ลมเย็นสบาย
ท้องฟ้าครึ้มหมอกฝน วิวจากข้างบนวัด
เสร็จจากวัดถ้ำเสือแล้วเวลายังเหลือและอากาศก็ดี เราเลยขับรถไปต่อกันที่ ซาฟารีปาร์ค บ่อพลอย
กาญจนบุรี ตั้งอยู่ที่อำเภอบ่อพลอย ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีไป 40 กิโลเมตร
ค่าเข้า ซาฟารีปาร์ค ชาวไทยผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก100 บาท ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 550 บาท
เด็ก 350 บาท พร้อมชมโชว์ อาหารสัตว์ราคา 100 บาท จะได้เป็นขัน 4ขัน
สามารถนำรถยนต์เข้าไปได้ หรือจะนั่งรถของทางซาฟารีก็ได้
สัตว์ต่างๆจะเข้ามาขออาหารจากเราจากหน้าต่างแบบนี้เลย
ไฮไลท์ของที่นี่ น่าจะเป็นกลุ่มเจ้ายีราฟ ที่ยื่นคอยาวๆ เข้ามาในรถบัส
เรียกเสียงกรี๊ดเสียงหัวเราะได้ดีเลยทีเดียว 555
เข้ามาบุกล้อมรถกันเลย ลุกกันแถบไม่ทัน
ตามไปต่อกันที่จุดมุ่งหมายของเราวันนี้ โก๋ เมืองกาญจน์ พาราไดซ์ วิว รีสอร์ท
สำหรับ โก๋เมืองกาญจน์ ตั้งอยู่ที่ บ้านวังน้ำวน ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตามแผนที่เลย
การเดินทางก็ ไปตามเส้นทางที่จะไปน้ำตกไทรโยคน้อยค่ะ
แต่ขับเลยน้ำตกไปอีก ประมาณกิโลเมตรที่ 149 แล้วสังเกตซ้ายมือจะมีซอยเข้าไป
จะเห็นป้ายชื่อรีสอร์ท ชี้บอกตลอดระยะทางเข้าไป 15 กิโลจากถนนใหญ่
เส้นทางก็ดีบ้างไม่ดีบ้าง เป็นลาดยางสลับกับเป็นดินแดง จะมีป้ายของทาง รีสอร์ท
บอกตลอดทางเป็นระยะๆ ไม่ต้องกลัวหลง
ถึงแล้ว จอดรถเรียบร้อยแล้วก็เดินไปสำรวจกันได้เลย
จะมีพนักงานมารอต้อนรับอยู่ที่หน้า Lobby เพื่อรอเช็คอิน กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
รับกุญแจไปห้องพักได้เลยพนักงานจะขนของตามไปให้เราที่หน้าห้องพัก
มองไปทางขวามือฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นที่พักโซนวิลล่า
สำหรับครอบครัวหรือหมู่คณะ บรรยากาศร่มรื่นมาก
แต่ของเราจองในส่วนของแพริมน้ำไว้ เดินลงไปดูกันเลยดีกว่าทางลงก็จะเป็นทางลาดชันนิดนึง
ส่วนนี้จะเป็นชั้นดาดฟ้าบนแพ ไว้นั่งชิวรับลม
พอลงมาก็จะเห็นกับวิวที่ร้องว้าว... แถบอยากจะวิ่งลงไปเลย บรรยากาศสดชื่นมากๆ
ระหว่างทางเดินไปที่ห้องพัก จะเห็นว่าพนักงานขนของมายืนรอเราที่หน้าห้องแล้ว
เราได้ห้องพักหมายเลข102 วันที่เราไปพัก มีแขกไม่เยอะ ค่อนข้างสงบมาก ในห้องมีเครื่องอำนวย
ความสะดวกครบแอร์ พัดลม ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น
ห้องพักเป็นวิวติดแม่น้ำ ห้องไม่กว้างมากเท่าไหร่ แต่วิวสวยใช้ได้เลย
จากหน้าห้องจะมีตู้เย็น มินิบาร์เล็กๆ มุมแต่งตัวหน้าห้องน้ำ
ภายในตู้เย็นก็จะมีเครื่องดื่มไว้คอยบริการ ราคาก็จะติดไว้ข้างๆตู้เย็นเลย
เปิดมาดูที่ห้องน้ำสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ข้างในบุผนังคอนข้างโอเคน้ำไหลแรงดี
ระเบียงด้านหน้าของห้องพักค่อนข้างกว้าง มีทั้งเตียงนอนและเก้าอี้ เหมาะสำหรับนั่งเล่นนั่งชิลมากๆ
เก็บสัมภาระเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็ไปเดินดูสำรวจภายในที่พักกัน มุมนี้จะเป็นวิวจากดาดฟ้าด้านบน
แถบด้านหลังนี้จะมีสไลเดอร์ แพลาก ไว้สำหรับเล่นน้ำ ตรงนี้ค่อนข้างปลอดภัยมีเชือกกัน
และที่สำคัญต้องใส่ชูชีพก่อนลงน้ำทุกครั้งและหลัง18.00น.
งดลงน้ำ กฎระเบียบจะมีบอกตรงป้ายสีเขียว
มุมนี้จะเป็นมุมทานอาหาร นั่งพักผ่อน วิวดีเลยละ แพนี้จะเป็นแพสำหรับลากชมวิวแม่น้ำด้วยนะ
ถัดมามุมนี้จะเป็นสระว่ายน้ำธรรมชาติ กั้นเป็นคอกไว้ข้างล่างเป็นพื้นไม้
ระดับน้ำเหนือหัวเข่า เหมาะสำหรับเด็กๆ
มุมนี้เป็นวิวจากแพทานอาหาร สดชื่นธรรมชาติสุดๆ สูดหายใจเข้าให้เต็มปอด
ตอนเย็นประมาน 5โมง จะมีบริการลากแพเปียกเล่นน้ำ ระยะทาง 3กิโล ค่าบริการหัวละ150 บาท
สำหรับใครที่สนใจก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เลย
ถ่ายรูปเล่นไปสักพักก็ถึงเวลาอาหารเย็น ที่นี่จะเป็นอาหารบุฟเฟ่มื้อเย็น มื้อเช้า
ราคารวมที่พัก รสชาติอาหารใช้ได้เลย
หรือใครอยากสั่งอาหารอย่างอื่นเพิ่มเติมก็มีบริการ
และที่ถูกใจมากๆคือมีบาร์ ไว้คอยต้อนรับนักดื่มสายแฮงค์เอาท์ ราคาไม่แพงมาก ไม่ว่าจะเป็นเหล้าปั่น
ปักขวด ค๊อกเทลเหล้าช็อต มีทุกอย่างให้คุณเลือกสรร มุมนี้ก็จะถูกใจเป็นพิเศษ 555
สำหรับเรามุมนี้มันดีมาก แพนี้ค่อนข้างทันสมัยในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกของกินมีมากมาย
ของคาวหวานอย่างเช่น บิงซูผลไม้ หรือจะเป็นส้มตำถาด
ก็มีบริการ ดื่มด่ำบรรยากาศได้ที่แล้วก็เข้านอน
เช้าวันต่อมากับอากาศสดชื่นหมอกยามเช้า บรรยากาศดีๆ อยากจะตื่นมาเจอมื้อเช้าแบบนี้ทุกวันเลย
ถึงเวลา 08.30 น. ก็จะมีบริการลากแพชมวิวไปตามแม่น้ำ
จะตักข้าวขึ้นไปทานระหว่างชมวิวสองข้างทางก็ได้
ชมวิวสองข้างทางไปเรื่อยๆบรรยากาศดีมากๆ
สักพักก็จะมีเจ้าหน้าที่มาถามว่าสนใจลงเล่นน้ำมั้ย เข้าใจปล่อยให้เราลอยคอไปตามแม่น้ำ
มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง
ไหลๆไปเรื่อยๆตามแม่น้ำ เจ้าหน้าที่จะมีเรือลำเล็กๆคอยขับตามดูแลตลอด
ส่วนเราขอนั่งชมวิวสองข้างทางไปเรื่อยๆ ดีกว่าเป็นโรคกลัวน้ำ 5555
ระหว่างทางก็จะผ่านแพที่พักรีสอร์ทอื่นๆ ด้วย
ระยะทางไปกลับราวๆ 7 กิโล ใช้เวลาประมาน 1.30 ชั่วโมง
เวลายังเหลือ ก็กลับมาเล่นน้ำกันต่อในที่พัก
สนุกสนาน เล่นเอาเหนื่อยหอบเหมือนกัน
หลังจากเสร็จกิจกรรมในช่วงเช้าเตรียมตัวเก็บข้าวของก็ได้เวลา เช็คเอาท์ ออกจากที่พัก
ยังไม่อยากกลับเลยT-T
ลากันไปด้วยภาพสุดท้าย สำหรับ “โก๋ เมืองกาญจน์ พาราไดซ์ วิวรีสอร์ท”
ประทับใจในทุกอย่างเรื่องการบริการ อาหาร ที่พัก และการต้อนรับของพนักงาน
แนะนำเป็นอีกหนึ่งสถานที่ดีบอกต่อ สำหรับค่าที่พักที่นี้ จะอยู่ที่หัวละ 1200 บาท ต่อคืน
รวมอาหารบุฟเฟ่มื้อเย็นและมื้อเช้า พร้อมกิจกรรมในที่พักและลากแพชมวิว
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถาม
ทางรีสอร์ตได้ที่เบอร์ 085-070-4232 ได้เลย
Review By : BenJy
วันที่เดินทาง : 05-08-2017 (ฤดูฝน)
ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค กาญจนบุรี
Koh mueangkarn resort - Ban Wang Nam whon, Tha Sao, Sai Yok, Kanchanaburi
โพสเมื่อ : 2017-08-14 08:29:39