ชีวิตที่ปราศจากสัญญาณโทรศัพท์ ที่แพสายชล เขื่อนรัชชประภา อุทยานแห่งชาติเขาสก สุราษฎร์ธานี
Saichol houseboat at Rachaprapa Dam Suratthani
กลับมารีวิวได้สักทีไปมาเกือบครึ่งปีแล้ว
แต่เพิ่งไปดูหนัง คิดถึงวิทยามา เลยนึกถึงบรรยากาศแบบนี้
สถานที่ ที่ห้อมล้อมด้วยแม่น้ำ ธรรมชาติและ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
ถูกแล้วค่ะ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เราเพิ่งรู้ตอนไปถึง ไปพักผ่อนกันดีกว่า ที่
แพสายชล เขื่อนรัชชประภา
ตอนไปเราจองแบบเป็นบ้านปูนขอหลังริมสุด ราคาห้อง คืนละ 1000 บาทต่อคน
วันที่ไปถึงฝนตกด้วย คิดว่าแย่แน่เลย คงจะไม่สวยแน่เลย
แต่มันได้บรรยากาศหลายแบบเลย ฝนตก แดดออก หมอกลง อากาศหนาว
สวยและธรรมชาติมาก แต่สิ่งที่เรารู้ตอนไปถึงคือ เฮ้ย!! อัพรูปไม่ได้
ไม่มีแม้กระทั่งสัญญาณโทรศัพท์ ดีนะที่เอาหนังสือมา ลองปิดเครื่องแล้วไปเที่ยวกันค่ะ
บรรยากาศในห้องไม่มีอะไรมาก เปิดไปเจอเตียง แต่ห้องริมเปิดหน้าต่างเจอน้ำค่ะ
ขอเสียมีอย่างเดียวคือ เวลาเรือมามันจะมีคลื่น ถ้าใครเมาก็แย่หน่อย
ในห้องมีพัดลมให้ 1 ตัวแต่ที่นี่ ไฟจะเปิดเวลา 18.00 - 24.00 น. ค่ะ
เหมือนเค้าจะปั่นไฟเอง แต่ตอนไปเหมือนจำได้ว่า สี่ห้าทุ่มก็ปิดแล้วนะ
บรรยากาศบริเวณข้างหลังบ้าน สวยมากอ่ะ คือแค่นั่งจิบเบียร์ชมวิวก็ฟินแล้ว
เราไปเดินสำรวจที่พักบริเวณนี้กันดีกว่า อยู่บ้านหลังริมก็เดินไปทานอาหารไกลหน่อย
ที่นี่เป็นห้องน้ำรวมนะคะ แยกชายหญิง อาบน้ำสบาย รู้สึกจะมี 3 จุด
คือจุดนึงคือตรงนี้ อยู่ตรงบ้านปูน แล้วอีกสองจุดต้องเดินขึ้นเขา อยู่บริเวณแพไม้
มีชากาแฟให้และ น้ำร้อนใส่มาในกระบอกเก็บความร้อน
ในที่สุดเราก็เดินมาถึงโซนทานข้าว ราคาที่พักนี่พร้อมอาหารด้วยนะคะ
อาหาร 6 มือ เค้าจะเรียกเวลาทานข้าว หรือเราเดินมาหาตอนถึงเวลาก็ได้
กิจกรรมที่นี่ก็เล่นน้ำ พายเรือคายัค เราพายไปดูน้ำตกใกล้ที่พักด้วย น้ำตกเล็กๆ 555
บรรยากาศตอนพายเรือไปบอกเลยว่ามันโหว่งๆ รู้สึกกลัว เพราะไปวันแรกคนพักก็ไม่เยอะ
ทุกสิ่งห้อมล้อมไปด้วยน้ำ แล้วก็ลึกมากด้วย บรรยากาศเงียบๆ พายคายัคไปสองคน โคตรกลัว
บรรยากาศรีสอร์ทเมื่อมองมาจากกลางน้ำ พายเรือคายัคไปถ่าย
พายเหนื่อยตอนมันทวนน้ำนี่แหละ
พอตกกลางคืนคืนเงียบสงบสงัด ไปกันสองคน โชคดีเจอบ้านข้างๆน่ารัก
ชวนเราไปนั่งคุยกินเบียร์ถึงน่าจะเที่ยงคืน สนิทกันนิดนึง
พรุ่งนี้เค้าเดินทางกลับเลยฝากเค้า ส่ง sms ลางานให้ เมื่อถึงฝั่ง 555
ตื่นมาตอนเช้า มีหมอกบางๆ ตอนกลางวันนี่ไม่ต้องกลัวร้อนนะ
ไม่ร้อนเลย ถึงแม้จะไม่มีไฟใช้ก็เหอะ ลำบากก็พวกสาวๆจะเป่าผมกันยังไง
พออยู่แบบนี้แล้วรู้สึกว่า โทรศัพท์แย่งเวลาส่วนตัวไปเยอะมาก
อยู่นี่ไม่ทำอะไรเลย นอนตื่นเช้ามาสูดอากาศ จิบเบียร์ พายเรือ อ่านหนังสือ เล่นน้ำ
ไม่ได้สนใจโลกภายนอกเลย แอบคิดว่าถ้าเป็นไรไปจะติดต่อคนอื่นยังไง
บรรยากาศที่นี่สงบอ่ะ ยิ่งเวลาไม่ค่อยมีคนนะ ชิวมาก
เราพาไปสำรวจ บ้านพักแบบต่างๆกันดีกว่า เริ่มจากแพไม้ที่เรียงรายกันสองฝั่ง
เปิดบ้านไปก็เจอแต่ที่นอนเรียงรายกัน มาที่นี่คือพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ชัดๆ
อันนี้ก็เป็นแบบอีกแบบนึง ส่วนราคาจำไม่ค่อยได้
คืนที่สองเหมือนจะมีปาร์ตี้ คนมาพักเยอะมาก เลยแอบคิดว่าคงเสียงดัง วุ่นวายแน่ๆ
แต่ดีที่ ที่นี่ มีเวลาปิดไฟ ตอนหัวค่ำจิบเบียร์แล้วก็ฟังเค้าร้องคาราโอเกะเอา
คนเยอะมากเหมือนเค้าพาคนมาเที่ยวเป็น อบต. หรืออะไรสักอย่าง เครื่องเสียงจัดเต็มเลย
แต่ก็ไม่ได้วุ่นวายเท่าไหร่ เพิ่มสีสันอีกคืนนึง 55
วันสุดท้ายตื่นมาแล้วพบว่าวันนี้ต้องกลับบ้านแล้วหรอ คือเรากลับกันหลังสุดท้าย
ตอนที่รีสอร์ทไม่มีใครนี่สงบสุดแล้ว ตื่นเช้ามาฝนตกเบาๆ เลยอากาศเย็น มีหมอกด้วย
เปิดบ้านมายามเช้า บรรยากาศมันแบบ น่านอนต่ออ่ะ
บางทีนะ นานๆครั้งมาพักผ่อนที่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องสนใจโลกข้างนอก
พักผ่อน พักสมอง มีเวลาคิด และเติมพลัง แล้วก็กลับไปเผชิญความวุ่นวายใหม่อีกครั้ง
ถึงเวลาที่ต้องกลับแล้วสินะๆ
ขอบคุณบรรยากาศดีๆในเมืองไทยที่ทำให้ได้มาผ่อนคลายสมอง
มาลองใช้ชีวิตแบบไม่ต้องใส่ใจใคร อยู่กับตัวเองบ้าง อยู่กับธรรมชาติบ้างก็ดีเหมือนกัน
สุดท้ายอาหารที่นี่ทั้ง 6 มื้อ คือกินกันสองคนอ่ะ คืออร่อยอ่ะ อิ่ม แน่น ไม่ต้องแย่งใคร คือดีอ่ะ
ไว้คราวหน้าจะกลับมาใหม่นะ มาเติมพลังชีวิต หนีความวุ่นวายในเมือง
ความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง แล้วใส่ใจความรู้สึกตัวเองให้มากขึ้น ^^
วันที่เดินทาง : 08-07-2013 (ฤดูฝน)
พนม สุราษฎร์ธานี
Rachaprapa Dam Suratthani
โพสเมื่อ : 2014-03-23 23:54:30