วันที่ 2 ที่วังเวียงออกไปตามหาธรรมชาติซะบ้าง วังเวียงไม่ได้มีแต่เบียร์ที่อร่อยนะเฮ้ยยยย
Blue Lagoon VangVieng Laos
หลังจากเรามาถึงวันแรกเหนื่อยๆ เราก็คิดว่า เฮ้ย! ไป One Day Trip ดิ
Blue Lagoon โคตรสวย ธรรมชาติดี๊ดี มันต้องเหมือนในรูปดิ
วันนี้เราเลยรีบตื่นมาทัวร์ตั้งแต่ 9 โมงเช้า กินข้าวรอรถมารับ
เค้ามีกระเป๋ากันน้ำให้ยืมด้วยนะ แต่ด้วยความโง่และใช้เงินแก้ปัญหา
เลยไปซื้อมาก่อนแล้ว 5555 ป่ะ เที่ยวธรรมชาติกันดีกว่า
นั่งรถผ่านทางฝุ่นและควันมาสักพักเราก็มาถึงอันแรก นั่งห่วงยางลอดถ้ำ
ทั้งๆที่อากาศเย็น น้ำก็เย็น เอ้าไปลองดูดิ ว่ามีอะไร
พอถึงที่จอดรถ ซึ่งรถก็เยอะมาก เค้าก็แจกเสื้อชูชีพให้ แล้วเราก็ใส่กัน
ใส่เดินผ่านทุ่งนาอ่ะนะ แล้วคนอื่นเค้าก็ไม่ใส่ไง 5555
นี่ไงธรรมชาติ มาวังเวียงต้องมีสีเขียวๆดิ
พอมาถึง บริเวณที่เค้านั่งห่วงลอดถ้ำกัน โอ้โหคนรอคิวเยอะมากกกกกกกกก
มีโต๊ะให้นั่งรอ เลยนั่งกินข้าวกันก่อน มีข้าวผัด บาบีคิว ขนมปังฝรั่งเศส กล้วย
กินเสร็จก็แล้วก็ยังไม่ถึงคิว เลยตัดสินใจไม่รอกันค่ะ ระหว่างนั้นเจอคนไทย
เลยถามว่าข้างในมีอะไรหรอ เค้าบอกว่าไม่รู้ดิ มันมืดๆและมัวแต่มองเชือกที่ต้องสาวเข้าไป
เลยยิ่งตัดสินใจง่าย กลับค่ะ ไปคายัคกันดีกว่า
นอกจากมีลอดถ้ำแล้ว ยังมีอีกกิจกรรม sipling โรยตัวจ้าา โอ้โหน่าสนุก แต่ก็แพงอีกนั่นแหละ
ดูคนสิ นี่แค่ส่วนนึงที่เข้าและออกจากถ้ำนะคะ
หลังจากตัดสินใจเดินออกมาแล้ว ก็คิดว่าวันนี้คนเยอะแน่ๆ ไหนคือความชิว
เราก็เดินกลับกัน ผ่านทุ่งหญ้าอันเดิม ที่เพิ่มเติมคือน้องวัว
มาเป็นฝูงเลยจ้าาา ถ่ายรูปเก็บไว้หน่อย
ว่าวังเวียงมันมีธรรมชาติจริงๆนะ 555
แต่ที่จริงมันคงมีที่สวยๆกว่านี้อ่ะ แต่เราแค่ไม่ได้ไปเองเท่านั้น
ขากลับมีไหว้พระ ซักหน่อย ถ้ำช้าง มีรอยพระพุทธบาทด้วยค่ะ
พอไหว้พระเสร็จ เดินกลับขึ้นรถค่ะ สถานีต่อไปคือ พายคายัคๆๆๆ เฮ้ย! มันต้องชิว
แถมมีบาร์น้ำอีก ไปแวะกินเบียร์กันอีกแล้ว แต่ขอบอกเลย ณ จุดนี้ จะค่อนข้างฟิน
เพราะจะมีฝรั่งมาล่องห่วงยางค่ะ จิบเบียร์ ลอยห่วงยางไปเรื่อยๆ
ไม่ใส่เสื้อ 5555 ฟินเลยทีเดียวสำหรับคนชอบแนวนี้
แม่น้ำจะมีทั้งช่วงที่ไหลเอื่อย ไหลเชี่ยว โขดหิน และป่า
ถ้าใครพายไม่ไหว ให้น้องไกด์ช่วยพายได้นะคะ
พอพายออกมาสักนิด นิดเดียวจริงๆ ก็เจอบาร์ แวะเลยค่ะ
ฝรั่งเยอะมาก และดูแล้วเจ้าของน่าจะคนเดียวกับซากุระบาร์
ดูบรรยากาศรวมๆ เอานะคะ มีเกมส์ให้เล่นเยอะมากกกกก
มีการใช้เจลลื่นๆทาแล้ววิ่งมาสไลด์กันด้วย ส่วนด้านหลังมีสนามวอล์เลย์บอลเล็กๆ
ฝรั่งชายถอดเสื้อ ฝรั่งหญิงบิกินี่เลยจ้า เล่นวอล์เลย์กันเต็มเลย
บางทีก็ไม่อยากออกจากจุดนี้แล้ว แต่ก็คงต้องไป ไปพายคายัคต่อ
เพราะหลังจากจุดนี้ โอ้โห ระยะทางโคตรไกล
มาเป็นกลุ่มนี่ โคตรสนุก พายไปใกล้ลำเพื่อน แล้วก็สาดน้ำค่ะ
แก้วเบียร์ที่กินเมื่อกี้นี่แหละ เอามาเป็นอุปกรณ์ ในการสาดน้ำได้
ระหว่างทางอาจต้องมีสมาธิบางช่วงขณะ แต่น้องไกด์จะพายอยู่ใกล้ๆ คอยบอก
ซ้ายสิ ขวาสิ เพื่อหลบหิน และไม่ให้เรือคว่ำ หรือไปติดป่า
แต่ช่วงนั้นจะมีเรือคว่ำเรื่อยๆ ติดป่าบ้าง สนุกดี ไม่น่ากลัว
น้ำใส ไม่ลึกมาก ใส่เสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัยด้วยนะคะ
ไกด์บอกว่าประมาณ 5 กิโล จากจุดเริ่มต้นถึงจุดขึ้นฝั่ง
ไกลนะ แต่สนุกมากๆ แกล้งสาดน้ำกันตลอดทางจนคิดว่าเล่นสงกานต์กันอยู่ 55
พอพายคายัคเสร็จ สถานีต่อไป บลูลากูนนนนนนนนนนน
รถของเราจะมารอรับเราตรงที่เราขึ้นฝั่งพอดี แต่ตรงนี้ไม่มีห้องน้ำนะคะ
แนะนำ ในน้ำเลยค่ะ มีคนไปยืนๆนั่งๆ กันเต็มไปหมด 55
เย้ มาถึงแล้วบลูลากูนนนน จุดที่คนเยอะคือโดดลงมาจากต้นไม้
เพื่อนบอกว่ามาถึงแล้วก็ต้องลองสิ ตอนแรกมองไป ไม่ค่อยสูงน่าจะโดดง่าย
แต่ๆๆ พอขึ้นไปจริง โอ้โห โคตรสูง โคตรใจสั่น มีคนเดินลง เราไม่กล้าโดด
จะเดินลง เพื่อนตะโกนด่าคร่าา บอกทางลงมีทางเดียว คือโดดเท่านั้น
จุดนั้นนี่เข้าใจถึงความกลัวแบบ ก้าวขาไม่ออกอ่ะ ขาแข็งอ่ะ
เพราะพอจะโดดกิ่งมันก็ไม่กว้างมากนะ พอถึงจุดปลาย ขามันหยุดเอง โคตรกลัว
ยืนอยู่นานมาก จนคิดในใจว่า เฮ้ย คนอื่นโดดลงไปก็ไม่เป็นไรนะ เลยโดด
ความรู้สึกตอนนั้นแบบ มันสูงจริงๆนะ และคิดว่าเมื่อไหร่เท้าจะแตะน้ำ
พอถึงน้ำเท่านั้นแหละ โล่งอก พี่รอดแล้ว พี่มาโดดแล้ว พี่มาถึงวังเวียงแล้ว กลับได้
ลองดูวิวจากข้างบนสิคะ โอ้โห มันสูงนะเฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย
มองลงไปเห็นคนตัวเท่านี้ มันสูงจริงๆไม่ได้ล้อเล่นนะ
ที่โดดมีทั้งยอดสูงและเตี้ย โชว์สเต็ปได้ตามใจ บางคนก็ตีลังกาลัง ไม่ธรรมดาอ่ะ
อีกฝั่งของบลูลากูนก็มีสไลเดอร์ แต่เสียตัง มีที่นั่งพัก นั่งชิว แต่คนเยอะอ่ะ
ที่นี่มีห้องน้ำเสียเงินนะคะ และไม่ค่อยสะอาดด้วย
จบภารกิจของ One Day Trip กลับบ้าน อาบน้ำ นอน ซะที่ไหน
อาบน้ำออกไปหาอะไรกิน แล้วไปซากุระบาร์สิครับ รออะไรหล่ะ
พอกำลังจะออกจากโรงแรม บอลลูนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
นี่ไงวังเวียง ธรรมชาติ บลูลากูน บอลลูน ซากุระบาร์ ครบแล้วนะ กลับบ้านได้
ตอนแรกขึ้นว่าจะขึ้นไปนั่งบอลลูน แต่ไม่มีเพื่อนเลย ราคา 80 ดอลล่าร์
ดูวิวจากบอลลูนโคตรสวยอ่ะ ถ้ามีโอกาสอยากลองนั่งดู แต่คงสูงและน่ากลัว แต่สวยย
วันนี้เราไปสำรวจริมแม่น้ำกัน มันจะมีร้านนั่งชิวขาจุ่มน้ำ บรรยากาศยามเย็นสวย
แสงอาทิตย์ตก อากาศเย็นๆ เดินถ่ายรูป แต่พอไปถึงร้าน คนเยอะมากกกก
เราพายคายัค ผ่านมาทางนี้ด้วยหรอ น่าจะผ่านแหละ จำได้ว่าผ่านร้านนั่งชิว
ดูจำนวนคนค่ะ อดแวะเลย ไปหาร้านอื่นกินกันดีกว่า
จบด้วยการมากิน ซิ้นดาด เรียกงี้เปล่าไม่รู้ นั่นคือร้านหมูกระทะ อ่านรีวิวต่อ ที่นี่
จบค่ำคืนนี้ด้วยซากุระบาร์อีกตามเคยยยย คืนนี้มีเกาหลีแซ่บด้วยนะ
สำหรับคนชอบเกาหลี ก็มาซากุระบาร์ได้นะคะ
วันที่ 3 เราตื่นเช้ามาเพื่อที่จะได้ไปต่อที่เวียงจันทน์ เลยหาข้าวเช้ากินก่อน
ลองโจ๊ก กับ เฝอ แล้วไปเดินริมสะพานยามเช้ากันค่ะ
ตอนเช้ายามไม่มีคน สงบเงียบสวย บรรยากาศดี ชิวเพราะร้านก็ไม่เปิดเช่นกัน
แต่เนื่องจากคนน้อย ก็เกิดเหตุการณ์น่ากลัวอีก เจอคนติดยาน่าจะดมกาว
ท่าทางแปลก ชอบมองมาแล้วสักพักก็เดินตาม เราเดินข้ามสะพานเค้าก็เดินตาม
เราเดินลงไปริมน้ำเค้าก็ลงมา เลยต้องเดินอ้อมหลบ แล้วรีบเดินกลับทันที
เตือนสาวๆนะ ถ้าไปกันสองคนก็ระวังหน่อย เที่ยวคนเดียว สองคนไม่น่ากลัว
แต่เราก็ควรหลบที่ที่ไม่ปลอดภัยไว้ด้วยนะคะ
สำหรับรีวิว วังเวียง เราว่าที่นี่เดินทางโคตรเหนื่อย มาแล้วมันไม่ค่อยคุ้มกับการเดินทางซักเท่าไหร่
คือที่เที่ยวมันไม่ว้าวแบบว่า ควรจะนั่งรถ 6-7 ชม. เพื่อมาอ่ะ แต่แล้วแต่คนชอบเนอะ
ไว้พบกันรีวิวหน้า พาไปนั่งชิวและจบด้วยการแด๊นซ์ที่เวียงจันทน์กันค่ะ
วันที่เดินทาง : 21-02-2016 (ฤดูหนาว)
วังเวียง วังเวียง
VangVieng Laos
โพสเมื่อ : 2016-03-24 02:44:25